ย่าหยา...งานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เทศบาลกระทู้ จังหวัดภูเก็ต
Posted by สิปปสินี
email : sippasini@gmail.com
http://www.oknation.net/blog/sippasini/2010/07/03/entry-1ย่าหยา...สาวสวย MBA PKRU กับถนนสายวัฒนธรรมกระทู้ ครั้งที่ 2
งานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เทศบาลกระทู้ จังหวัดภูเก็ตถ้าพูดถึงจังหวัดภูเก็ต คนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงหาดทราย สายลม และแสงแดดที่มีเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวตามแหล่งต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต
หากแต่จะมีใครสักคนบ้างนะ ที่จะคิดถึงวัฒนธรรมการแต่งกาย และความเป็นอยู่แบบพื้นเมืองของคนภูเก็ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่งดงามยิ่งนัก “งานถนนสายวัฒนธรรมกระทู้ ครั้งที่ 2”
เป็นงานที่เทศบาลกระทู้ได้จัดทำขึ้นมา เพื่อสร้างสรรค์นำทางสู่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่นของภูเก็ต
ในงาน มีการแสดงสินค้าพื้นเมือง อาหารการกินของภูเก็ต การแสดงงานศิลปะ ไม้กวาดที่ประดับด้วยผ้าแบบศิลปะทางใต้
โดยคุณเจด้าช่วยออกแบบให้ การแสดงโชว์ การละเล่นของเด็กๆ รุ่นก่อน เป็นต้นภูเก็ตเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประวัติความป็นมายาวนาน“จังซีลอน” หรือเกาะภูเก็ต เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรตามพรลิงก์
ในสมัยอาณาจักรศิริธรรมนคร “เมืองตะกั่วถลาง” หมายถึงเกาะภูเก็ตของคนในสมัยนั้น สมัยสุโขทัย เมืองถลางไปขึ้นกับเมืองตะกั่วป่า
ในสมัยอยุธยา ได้มีชาวฮอลันดาเข้ามาทำการค้า คือ การรับซื้อแร่ดีบุกจากเหมืองในภูเก็ต ในสงครามเก้าทัพ พระเจ้าปดุงซึ่งเป็นกษัตริย์ของประเทศพม่า ได้ให้แม่ทัพยกทัพมาตีเมืองถลาง
แต่ในขณะนั้น พระยาพิมลอัยยาขันเจ้าเมืองถลางเพิ่งถึงแก่อนิจกรรม
ท่านผู้หญิงจันผู้เป็นภริยา ร่วมด้วยน้องสาว คุณมุก รวบรวมกำลังต่อสู้กับพม่าจนต้องแตกทัพพ่าย
แก่ท่านผู้หญิงจัน คุณมุกและกองกำลังคนไทยที่รักชาติร่วมกันต้านกองทัพพม่า
และเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 คือวันที่กองทัพพม่าแตกทัพกลับบ้านไป
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงจันเป็น “ท้าวเทพกระษัตรี” คุณมุกเป็น “ท้าวศรีสุนทร” และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกระบบมณฑลเทศาภิบาล จึงได้เปลี่ยนเป็น จังหวัดภูเก็ต จวบจนปัจจุบัน
ส่วนประวัติของย่าหยาในภูเก็ต เริ่มต้นมาจากการที่มีชาวจีนที่อพยมาจากปีนัง
เพื่อให้เข้ามาทำเหมืองแร่ในจังหวัดภูเก็ต ราวปี พ.ศ. 2560 หรือ 80 ปีที่ผ่านมา ชาวจีนได้แต่งงานกับคนพื้นเมือง ทำให้เกิดกลุ่มชนใหม่ที่เรียกว่า บาบ๋า และย่าหยา
ประเพณีวัฒนธรรมแบบจีนได้เข้ามาเผยแพร่เข้ามาและได้มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมทางภาษา
การแต่งกาย อาหาร ผสมกับวัฒนธรรมพื้นเมือง
จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รวมไปถึงเครื่องแต่งกายก็ยังมีรูปแบบเฉพาะของภูเก็ต ชุดย่าหยา คือชุดที่เป็นเอกลักษณ์ที่สวยงาม บ่งบอกถึงความเป็นกุลสตรีที่มีกริยางดงามของสตรีภูเก็ต
ชุดเสื้อลูกไม้บางๆ ที่จะต้องใส่เพื่อให้เกิดความสบายในการสวมใส่และสามารถมองเห็นเครื่องประดับ
เช่น เข็มขัดทอง กระดุมเสื้อทอง เพื่อเป็นการบ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่แบบกลายๆ
และยังมีการนุ่งผ้านุ่งที่สวยงามเป็นผ้าปาเต๊ะลายสวยงาม ในการนี้ พวกเรานักศึกษา MBA 52 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
ได้เล็งเห็นความสำคัญของการรักษาวัฒนธรรมอันงดงามของคนภูเก็ต
รวมถึงการนำเอาความรู้ “การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ” ไปใช้ในสถานการณ์จริง
โดยมีจุดด่นของกิจกรรม ดังนี้ 1. การขายสินค้าพื้นเมือง เช่น ขนมโอเอ๋ว ขนมลูกชุบ ขนมบ้าบิ่น และขนมไทยอื่นๆ
เพื่อสนับสนุนอาหารไทยแบบดั้งเดิมแก่ผู้เข้าร่วมงาน และนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ลิ้มรสขนมไทยโบราณ
2. การนำเสนอสินค้าในแนว “Green Idea” คือ ใช้ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการผลิตสินค้า
และในตอนที่ขายจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติเท่านั้น แรกๆ ลูกค้าของเราก็ไม่ค่อยชอบใจนัก
เพราะนอกจากจะไม่ใส่ถุงพลาสติกให้แล้ว ราคาสินค้าก็จะแพงกว่าราคาปกติอยู่เล็กน้อย
3. ผลกำไรที่ได้จากการขายสินค้า จะนำไปเพื่อการกุศล ไม่ได้เก็บไว้เป็นการส่วนตัว
4. การแต่งกายแบบ “ย่าหยา” ตลอดการร่วมงาน เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมการแต่งกายที่สวยงามของคนภูเก็ต
เป็นจุดขายเพื่อดึงความสนใจลูกค้า ผลที่ได้คือได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมงานอย่างมากมายทีเดียว
ยอมรับได้ว่าชุดย่าหยาเป็นชุดที่ส่งเสริมบุคลิกผู้สวมใส่ให้งามสง่าอย่างแท้จริง สมควรที่จะได้รับการยอมรับ
และนำมาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือในโอกาสพิเศษให้มากขึ้น แถมในวันงานฯ เราก็ได้ลูกค้าที่สนใจจะตัดชุดย่าหยา อย่างที่เราสวมใส่กัน
เพราะหนึ่งในทีมงานของเราเป็นคนออกแบบตัดเย็บชุดย่าหยาให้เพื่อนๆ ได้ใส่กันค่ะ
5. การนำเอาเทคนิค “การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ” มาใช้เป็นกลยุทธส่งเสริมการวางแผนทางการตลาด
ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากทีเดียว
ในโอกาสหน้าผู้เขียนจะได้นำเสนอกิจกรรมการกุศลอื่นๆ ที่เราชาว MBA PKRU จะมีขึ้นในครั้งต่อไปนะคะ
แฟชั่นชุด "ย่าหยา" บางส่วน โดย MBA PKRU 52