Phuket Seafoods (ร้านอาหาร ภูเก็ตซีฟู้ด)
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
Phuket Seafoods (ร้านอาหาร ภูเก็ตซีฟู้ด)
ร้านอาหารจีนสไตล์ซีฟู้ด แบบฉบับดั้งเดิมของชาวภูเก็ต ในกรุงเทพมหานครฯ
บ้าน
Portal
Gallery
Latest images
ค้นหา
คำที่จะค้นหา
Display results as :
ตอบ
หัวข้อ
Advanced Search
สมัครสมาชิก(Register)
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ค้นหา
Inside
G
o
o
g
l
e
Display results as :
Posts
Topics
Advanced Search
สารบัญเว็บ
Index
-
กติกา และกฎทั่วๆไป
-
คุยกับเจ้าของร้านและทีมงาน
-
แผนที่ ที่ตั้งร้านอาหารฯ
สมาคมชาวภูเก็ต
-
ลงทะเบียนสมาชิก
-
ลานพิิกุล วัดขจร
-
กิจกรรมของสมาคมฯ
ของอร่อยริมทาง
-
ของดีของอร่อยเมืองภูเก็ต
นานาสาระ คลังความรู้
-
ข่าวภูเก็ต ออนไลน์
-
คุยกันประสาคนภูเก็ต
-
แจก ธีม วอลล์เปเปอร์ ฯ
อร่อยจานเด็ด
-
ตามอาหม่าเข้าครัว
-
เคล็ดลับคู่ครัว
Portal
รายชื่อสมาชิก
ข้อมูลส่วนตัว(Profile)
ช่วยเหลือ
ค้นหา
คุยกับเจ้าของร้าน
พูดคุยกับ
“คุณจุนสิน วงศ์สวัสดิ์”
เจ้าของร้านได้บอกเล่าถึงความเป็นมาของร้านนี้ให้ฟังว่า ตนเองนั้นเป็นชาวภูเก็ตโดยกำเนิด ....">
Latest topics
»
"เมิ่งเพ่ยเจี๋ย" เด็กสาวที่งดงามที่สุดแห่งหลินเฝิน
Fri Aug 12, 2011 7:41 pm by redfrog53
»
พามาชม พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณี
Tue Aug 02, 2011 9:59 am by redfrog53
»
ติดตาม ปชป.บอกว่าปราศัยใหญ่ครั้งแรกค่ำนี้ที่ภูเก็ตมีถ่ายทอดสดผ่าน Live stream ตอนทุ่มนึง
Fri May 27, 2011 8:32 pm by Admin
»
คลิป...นายกฯอภิสิทธิ์แถลงยุบสภา 9 พ.ค. 2554
Tue May 10, 2011 5:23 am by Admin
»
ปชป. เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน
Mon May 09, 2011 5:39 pm by Admin
»
Magical wedding for a Royal bride... and even the vergers were doing cartwheels in the aisle
Sat Apr 30, 2011 10:21 am by redfrog53
»
พิธีเสกสมรส เจ้าชายวิลเลียม และ เคต ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ (Royal wedding countdow)
Sat Apr 30, 2011 6:38 am by redfrog53
»
พิธีเสกสมรส เจ้าชายวิลเลียม และ เคต ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ 29/04/2011
Sat Apr 30, 2011 5:37 am by redfrog53
»
เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ให้สัมภาษณ์กับ วู้ดดี้เกิดมาคุย (10/4/54)
Mon Apr 11, 2011 7:03 am by redfrog53
»
วู้ดดี้ เกิดมาคุย "สัมภาษณ์ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ"
Mon Apr 04, 2011 6:54 am by redfrog53
»
คู่มือการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวภัยพิบัติ (ฉ.มหาวิทยาลัยโตเกียว)
Fri Mar 25, 2011 6:48 pm by redfrog53
»
ถุงยังชีพในญี่ปุ่น เขาจัดเตรียมตัวอย่างไรบ้างเมื่อเกิดแผ่นดินไหวแล้ว ต้องอพยพออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดและสามารถอยู่ได้ภายใน 7 วัน
Sat Mar 19, 2011 5:40 am by Admin
»
แพนด้าที่ตื่นตระหนกแผ่นดินไหว+สถานการณ์ ณ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะของญี่ปุ่น
Fri Mar 18, 2011 5:18 am by Admin
»
ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ? ระวังข้อความ “หลอกลวง”
Thu Mar 17, 2011 6:52 am by Admin
»
เบอร์สายด่วน สำหรับการติดต่อและให้การช่วยเหลือคนไทยที่ญี่ปุ่น***
Tue Mar 15, 2011 3:29 am by Admin
Affiliates
Affiliates
Affiliates
Phuket Seafoods (ร้านอาหาร ภูเก็ตซีฟู้ด)
::
ก้าวไปกับเทคโนฯ และวัฒนธรรม
::
นานาสาระ คลังความรู้
ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ? ระวังข้อความ “หลอกลวง”
ผู้ตั้ง
ข้อความ
Admin
Admin
จำนวนข้อความ
:
128
Join date
:
08/02/2010
เรื่อง: ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ? ระวังข้อความ “หลอกลวง”
Thu Mar 17, 2011 6:52 am
ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ?
http://hilight.kapook.com/view/57129
ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ?
หลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด และเกิดการรั่วไหลที่ประเทศญี่ปุ่น จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ก็ทำให้ประชาชนต่างหวาดผวา กลัวว่าสารกัมมันตรังสีจากเหตุระเบิดจะส่งผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติหรือไม่ ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือหนาหูในประเทศไทยถึงประเด็นดังกล่าวทั้งทาง SMS 1และฟอร์เวิร์ดเมล ( forward mail ) ว่า แรงลมจากประเทศญี่ปุ่นได้พัดพาสารกัมมันตรังสีมายังประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทำให้เป็นอันตรายโดยตรงต่อคนที่สัมผัส โดยเฉพาะเวลาฝนตกช่วงนี้ควรงดออกจากบ้าน และหากโดนฝนให้ใช้เบตาดีนเช็ดบริเวณที่โดน เพราะถ้าซึมเข้าผิวหนังจะทำให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งได้ หรือไม่ก็ต้องไปซื้อไอโอดีนมาทาน ไม่งั้นอาจจะทำให้เสียชีวิตได้!!!
อย่างไรก็ตาม หลังได้รับข้อความและข่าวลือดังกล่าว อาจจะยังมีหลายคนไม่เข้าใจว่า สารกัมมันตรังสีที่รั่วไหลออกมานั้นคืออะไร มีผลร้ายกับมนุษย์แค่ไหน เราจะสามารถป้องกันได้อย่างไร และการที่คนแห่ไปซื้อไอโอดีนมาทานกันนั้น เป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสารกัมมันตรังสีอย่างถูกต้อง คุณ CMV แห่งเว็บไซต์พันทิป จึงได้ออกมาอธิบายเรื่องนี้ค่ะ
สำหรับ สารกัมมันตรังสีที่รั่วออกมา และตรวจจับได้ในครั้งนี้ คือ I-131 และCs (ซีเซียม) ซึ่งไม่ใช่สารเชื้อเพลิงในเตาปฏิกรณ์ แต่เป็นผลผลิตจากการแตกตัวของอะตอมของสารเชื้อเพลิง โดย Iodine-131 (I-131) หรือไอโอดีนที่เป็นสารกัมมันตรังสี ทางการแพทย์จะใช้สำหรับรักษาคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ ด้วยการให้คนไข้กลืนแร่นี้เข้าไปหยุดการทำงานของต่อมไทรอยด์ ถึงตรงนี้ คนอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อคนไข้ทานได้ แล้วคนธรรมดาอย่างเรา ๆ รับแร่ตัวนี้ไปจะเป็นอันตรายได้อย่างไร
คำตอบก็คือ ในการใช้ I-131 รักษาคนไข้นั้น แพทย์จะให้คนไข้ทานครั้งเดียว และให้คนไข้อยู่ในโรงพยาบาลที่มีฉากตะกั่วกั้นทั้งสองด้าน เพื่อไม่ให้สารกัมมันตรังสีแพร่กระจายออกไป จากนั้นสารไอโอดีนจะถูกขับออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ ซึ่งมีปริมาณน้อยมากแทบไม่มีผลต่อคนที่อยู่ด้วยใกล้ ๆ
แต่ทว่า I-131 ที่ออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ถือเป็นอันตรายเนื่องจากหากได้รับสารตัวนี้นาน ๆ เข้า ไม่ว่าจะมาจากการสะสมทางอาหาร ฯลฯ มันจะไปหยุดการทำงานของต่อมไทรอยด์ และไปสะสมในต่อมไทรอยด์ เมื่อได้รับต่อเนื่องกันเป็นปริมาณมาก ๆ อาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ จนทำให้เกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ หรืออย่างเบา ๆ ก็คือไทรอยด์อักเสบได้
ทั้งนี้ I-131 มีค่าครึ่งชีวิต (Half Life) อยู่ที่ 8 วัน แต่การจะถือว่าสารรังสีตัวนั้นตายแล้ว ต้องผ่านไป 10 Half Life เพราะฉะนั้นในกรณีของ I-131 จะเท่ากับ 80 วัน แต่ในความเป็นจริง ประมาณ 5 Half Life หรือ 40 วันสารก็แทบจะหมดแล้ว แต่หาก I-131 จะปนเปื้อน คงจะปนเปื้อนผ่านทางอาหารการกิน เช่น ผัก ผลไม้ นม เนื้อวัว มากกว่า ดังนั้น ที่ประเทศญี่ปุ่นจึงต้องเร่งป้องกันไม่ให้ I-131 เข้าสู่ร่างกาย ด้วยการแจกไอโอดีน (ธรรมดา) ให้ทานล่วงหน้า โดยไอโอดีนจะถูกนำไปเก็บไว้ในต่อมไทรอยด์ เพื่อแย่งจับกับ Receptor ที่ต่อมไทรอยด์ก่อนที่จะโดน I-131 ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสีแย่งจับ เหมือนเป็นการรีบเติมไอโอดีนธรรมดาให้เต็มไว้ล่วงหน้า เพื่อว่าเวลาที่เราอาจรับสาร I-131 เข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ I-131 จะได้ไม่เข้าไปเก็บสะสมในต่อมไทรอยด์ เพราะเรามีไอโอดีน (ธรรมดา) เก็บไว้เต็มแล้วนั่นเอง
ส่วนสารกัมมันตรังสีอีกตัวที่ตรวจจับได้ว่ารั่วไหลออกมา คือ Caesium (Cs) หรือ ซีเซี่ยม ซึ่งมีอยู่ถึง 39 ไอโซโทป สำหรับตัวที่รั่วไหลออกมาคือ ไอโซโทป 137 มีค่าครึ่งชีวิต 30 ปี แม้พิษจะรุนแรงน้อยกว่าตัว I-131 แต่หากได้รับซีเซี่ยมเข้าไปตรง ๆ ในปริมาณมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการแพ้ คันอย่างรุนแรง หรือชักเกร็งกระตุกได้
ทั้งนี้ ตัว Cs-137 มักจะปนเปื้อนตกค้างในพืชผัก แต่โชคดีที่ว่า Caesium (Cs) ไม่ใช่สารกัมมันตรังสีที่จะเข้าไปสะสมในร่างกายได้เหมือน I-131 เพราะฉะนั้น เมื่อเผลอทานซีเซี่ยมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ร่างกายจะขับออกมาได้เองอย่างรวดเร็วผ่านทางเหงื่อ และปัสสาวะนั่นเอง ดังนั้นแล้วจึงไม่ต้องกังวลว่า ซีเซี่ยม จะก่อให้เกิดมะเร็ง เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับซีเซี่ยม เป็นระยะเวลานานมาก ๆ เท่านั้น ก็อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
แต่สำหรับสัตว์ อย่างเช่น "ปลา" ที่อยู่ตามทะเลแถบนั้น ย่อมหนีไม่พ้นที่จะได้รับสาร I-131 และ Cs-137 อย่างแน่นอน โดยเฉพาะตัว Cs-137 ที่มีครึ่งชีวิตถึง 30 ปี จะเจือปนในห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเล รวมทั้งน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวด้วย เหตุนี้หลายคนจึงกลัวที่จะทาน "ปลาดิบ" จากญี่ปุ่น เพราะเกรงว่าจะรับสารเข้าไปนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หลังจากข่าวการรั่วไหลของสาร I-131 แพร่สะพัดออกไป ก็ทำให้ในหลาย ๆ ประเทศในกลุ่มเสี่ยงเริ่มสั่งซื้อไอโอดีน นั่นจึงทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนเกี่ยวกับการใช้ไอโอดีนว่า อย่าซื้อไอโอดีนมาใช้เองเป็นอันขาด และต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะไอโอดีน แม้จะสามารถต่อต้านสารกัมมันตรังสีบางชนิดได้ แต่ไม่สามารถต่อต้านสารกัมมันตรังสีอย่างซีเซียมที่รั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นในขณะนี้ได้ กลับกันมันยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพกับคนบางกลุ่ม รวมไปถึงสตรีมีครรภ์ด้วย นอกจากนี้
องค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำให้นำ "ไอโอดีนเหลว" หรือ "เบต้าดีน" ที่ชาวเอเชียใช้ล้างแผลมาดื่มหรือทา
เพราะไอโอดีนเป็นยาที่อนุญาตให้ใช้ในโรงพยาบาล และต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์เท่านั้น
โดย เภสัชกรพอล โฮ จากกัวลาลัมเปอร์ ได้เปิดเผยว่า "มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ประชาชนหลายประเทศทั่วโลกอ่านข่าวเกี่ยวกับการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น จากนั้นก็สั่งไอโอดีนชนิดเม็ดกันเป็นจำนวนมาก แถมเภสัชกรก็ยังยอมจ่ายยาให้อีก นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอีกว่า การทาไอโอดีนเหลวที่คอจะช่วยป้องกันสารกัมมันตรังสีซึมเข้าสู่ร่างกายได้ด้วย ตรงนี้ผมไม่รู้ว่าประชาชนทำกันจริง ๆ หรือเปล่า แต่เราต้องลบล้างความเข้าใจผิดนี้เสียตอนนี้"
ทั้งนี้ แม้จะมีการเปิดเผยว่า
ไอโอดีนไม่สามารถต้านสารกัมมันตรังสีซีเซียมที่รั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่าได้
แต่ประชาชนก็สามารถป้องกันสารกัมมันตรังสีได้ด้วยตัวเอง โดยการปิดประตูหน้าต่างให้สนิททั่วบ้าน ไม่เปิดแอร์ บริโภคอาหารและดื่มน้ำจากภาชนะที่ปิดแน่น และพยายามอย่าออกนอกอาคารเด็ดขาด หากจำเป็นต้องออกนอกอาคาร ก็ควรใช้ผ้าปิดจมูกหรือสวมหน้ากากป้องกันให้เรียบร้อย
เจอแระ ต้นตอเบตาดีนทาคอ -_-' แถมเสี่ยงเจอ mulware ด้วย
http://t.co/SpxNOrq
via @it24hrs
“@mktmag: การปล่อยข่าวลือในเมืองไทยมักได้ผล เพราะไทยเป็นสังคมปากต่อปาก เป็นสังคมเน้นพูด ไม่เน้นอ่านเขียน”
http://www.it24hrs.com/2011/bbc-radiation-malware/
ระวังข้อความ”หลอกลวง”ผ่านเน็ต เรื่องการป้องกันกัมมันตภาพรังสี เสี่ยงเจอ mulware ด้วย
วันที่: 17 มีนาคม 2011
[b]BBC แจ้งระวังข้อความ “หลอกลวง” เกี่ยวกับการป้องกันกัมมันตภาพรังสี แพร่กระจายทั่วเอเชีย และอาจนำไปสู่ Mulware, Phishing
สำนักข่าวBBC ยืนยันว่า ข่าวที่อ้างว่ามาจาก BBC และได้ถูกแพร่กระจายทั่วเอเซียผ่านทาง sms, e-mail, etc. ไม่เป็นความจริง!และทาง BBC ไม่ได้รายงานตามเนื้อหาที่แพร่กระจายนี้เลย
โดยข้อความ “หลอกลวง” ที่ถูกส่งต่อกันอย่างรวดเร็วระบุว่า “รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันการรั่วของกัมมันตภาพรังสีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟุกุชิมาแล้ว ประเทศต่างๆ ในเอเชียควรเตรียมป้องกันตัว โดยหากฝนตก ให้อยู่ภายในอาคารในช่วง 24 ชั่วโมงแรก ปิดประตูและหน้าต่าง เช็ดผิวหนังบริเวณลำคอด้วยเบตาดีน เนื่องจากเป็นบริเวณที่อยู่ของต่อมไทรอยด์ เพราะกัมมันตภาพรังสีจะเข้าสู่ไทรอยด์เป็นจุดแรก ให้ระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้กัมมันตภาพรังสีกำลังจะเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ประมาณ 16.00 น.ของวันนี้ ถ้าหากมีฝนตกในวันนี้หรือในอีก 2-3 วันข้างหน้าในฮ่องกง อย่าตากฝน หรือหากต้องออกไปให้ใชร่มหรือเสื้อกันฝน อนุภาคของสารกัมมันตรังสีซึ่งอาจทำให้เกิดการไหม้,ผมร่วงหรือแม้กระทั่งมะเร็งอาจจะอยู่ในสายฝน”
ซึ่งข้อความเหล่านี้ได้แพร่กระจายและสร้างความตระหนกไปทั่วเอเชียตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟิลิปปินส์
** สิ่งที่ต้องระวังคือ ข้อความหลอกลวงดังกล่าวนี้อาจจะแนบมาด้วย link หรือ attatchment ที่นำไปสู่เวปไซต์ phishing หรือ mulware ด้วย!**
ข้อมูลจาก -
BBC NEWS
Like
Dislike
ไอโอดีน ป้องกันสารกัมมันตรังสีได้จริงหรือ? ระวังข้อความ “หลอกลวง”
หน้า
1
จาก
1
Permissions in this forum:
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
Phuket Seafoods (ร้านอาหาร ภูเก็ตซีฟู้ด)
::
ก้าวไปกับเทคโนฯ และวัฒนธรรม
::
นานาสาระ คลังความรู้
Phuket Seafoods (ร้านอาหาร ภูเก็ตซีฟู้ด)
::
ก้าวไปกับเทคโนฯ และวัฒนธรรม
::
นานาสาระ คลังความรู้
ไปที่:
เลือก forum
|
|--กฏ กติกา มารยาท
| |--กติกา และกฎทั่วๆไป
| |--คุยกับเจ้าของร้านและทีมงาน
| | |--ประวัติ และความเป็นมาของร้านฯ
| | |--คุยกับโก้ซิ้น
| |
| |--ถามปัญหาและแจ้งปัญหา
| |--สมาชิกนักชิม รายงานตัว
| | |--นักชิมรุ่นเก๋า
| | |--นักชิมมือใหม่
| | |--Oversea คนไทยในต่างแดน
| |
| |--แผนที่ ที่ตั้งร้านอาหารฯ
| |--สนามประลองฝีมือนักบอร์ดมือใหม่
| |--หลักการโพสต และวิธีการใข้งาน BB Code
| |--โพสตอย่างเซียนมือทอง
| |--นักโพสตสายดำ มือพระกาฬ
|
|--สมาคมชาวภูเก็ต
| |--ลงทะเบียนสมาชิก สมาคมชาวภูเก็ต
| |--กิจกรรมของสมาคมฯ
| |--ลานพิกุล
| |--ปัญหา ข้อเรียกร้อง ฯ
|
|--ตั้งกลุ่มก้วนสังสรรค์ฮาเฮแบบชาวภูเก็ต
| |--3สาว ชาวภูเก็ต ชวนคุย
| |--D2B Gang
|
|--อร่อยริมทาง
| |--แวะชิมแวะซื้อ
| |--เที่ยวรอบเกาะแวะกินของหย่อยด้วยเสียงเพลง
| |--เข็นเต่าพาแฟนหาของกิน
| |--ไปเที่ยว เก็บมาเล่า
| |--ของดีของอร่อยเมืองภูเก็ต
|
|--ก้าวไปกับเทคโนฯ และวัฒนธรรม
| |--นานาสาระ คลังความรู้
| |--ข่าวภูเก็ต ออนไลน์
| |--คุยกันประสาคนภูเก็ต
| |--แจก ธีม วอลล์เปเปอร์ ฯ
|
|--อร่อยก้นครัว
| |--อร่อยจานเด็ด
| |--ตามอาหม่าเข้าครัว
| |--ตำแหลกตำมั่ว
| |--เคล็ดลับคู่ครัว
|
|--ห้องครัวฮาเฮ
| |--ฟังโก้ๆ เล่าเรื่องหลกๆ
| |--เรื่องโจ้ก โจ้กหม้อดิน
| |--เรื่องฝรั่ง กินไข่ดาวหมูแฮม
|
|--หลาดโต้รุ่ง
|--เปิดร้านกะอาโก๋
|--เปิดท้ายขายของกะอาจี้