21 เมนู กับแกล้มเหล้า เมนูแรกขอเสนอแกงป่านกสับเครื่องปรุง1. นกกระทา สับละเอียด 4 ตัว
2. น้ำพริกแกงเผ็ด หรือ น้ำพริกแกงป่า 4 ช้อนโต๊ะ
3. ใบมะกรูดซอย 15 ใบ ฉีก 10 ใบ
4. กระชาย 500 กรัม
5. พริกชี้ฟ้า เขียว แดง 10 เม็ด
6. มะเขือพวง
7. มะเขือเปราะ 10 ลูก
8. พริกไทยอ่อน
9. ใบกระเพรา
10. น้ำปลา + เกลือส่วนผสมเครื่องแกง1. พริกแห้ง 3 กำ + พริกขี้หนูสด 30 เม็ด
2. กระเทียม 1 หัว
3. ตะไคร้ 5 ต้น
4. ผิวมะกรูด 3 ผล
5. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ 2 ช้อนชาวิธีการทำผัดพริกแกงให้หอมสัก 5 นาที จากนั้นใส่นกสับปั้นเป็นก้อนเล็กๆลงไปผัด เมื่อนกและพริกแกงผัดเข้ากันดีแล้ว ตามด้วยใบมะกรูดฉีก พอนกสุกดีแล้ว ใส่กระชาย แล้วผัดต่ออีกสัก 5 นาทีเติมน้ำพอประมาณไม่ต้องเยอะนัก เติมน้ำสัก 2-3 ถ้วยชาก็พอ จากนั้นทิ้งให้เดือดเต็มที่ พอเดือดแล้วปรุงรสตามชอบ ใส่มะเขือเปราะลงไป แล้วรอให้เดือดอีกครั้งพอเดือดทีนี้ใส่ พริกไทยอ่อน มะเขือพวง และพริกชี้ฟ้า ปล่อยไว้สัก 5-8 นาที จากนั้นชิมอีกครั้ง ขาดเหลือให้เติม แล้วใส่ใบกระเพรา กดให้จมแล้วปิดไฟเสร็จพร้อมเสริฟแล้วครับ..............................................................................................................
เมนูต่อมาขอเสนอนกทอดกระเทียมส่วนผสม 1. นกหั่นเป็นชิ้นๆ
2. เกลือป่น
3. ซอสถั่วเหลือง
4. กระเทียม
5. พริกไทย วิธีการทำนำกระเทียม พริกไทย โขลกรวมกัน นำนกที่เตรียมไว้มาคลุกเคล้าใส่เกลือป่น ซอส หมักทิ้งไว้สักครู่ นำมาทอดให้สุกเหลืองดี เสริฟร้อนๆ.....................................................................................................................
เมนูที่ 3 ขอเสนอผัดเผ็ดนกเครื่องปรุง1. นกกระทาหั่นเป็นชิ้น 3 ตัว
2. น้ำพริกแกงเผ็ดแดง 1 ช้อนโต๊ะ ชอบเผ็ดเพิ่มได้
3. มะเขือหั่นเป็นชิ้น 3 ลูก
4. ใบกระเพราเด็ดเป็นใบ 1 กำมือ
5. พริกไทยสด 2 ช่อ
6. พริกขี้หนูหั่นแฉลบ 5 เม็ด
7. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 2 เม็ด
8. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
9. น้ำปลา
10. น้ำตาล
11. น้ำมันพืช
12. น้ำเปล่า พอประมาณ วิธีการทำกระทะตั้งไฟกลางๆ ใส่น้ำมัน รอให้ร้อนแล้วใส่เครื่องแกงลงผัด ผัดจนเครื่องแกงหอม ก็ใส่นกที่หั่นไว้ลงผัดกับเครื่องให้เข้ากันดี จนเกือบๆสุก จากนั้นก็เติมน้ำเปล่าลงไปสักนิดนึงก่อน แล้วผัดต่อจนเครื่องเข้ากันดี เมื่อนกเริ่มสุกแล้ว ใส่พริกไทยสด ใส่มะเขือที่เตรียมไว้ ผัดเร็วๆให้เข้ากันอีกครั้ง เติมน้ำอีกนิด แล้วใส่น้ำปลา น้ำตาล แล้วคนให้เข้ากันดี ชิมรสให้ถูกใจ ตามด้วยพริกต่อด้วยใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกสักครั้ง ใส่ใบกระเพรา แล้วคนๆให้ทั่วเตรียมเสริฟได้เลยครับ.....................................................................................................................
เกร็ดความรู้ ใช่ว่าเบียร์จะไม่มีอะไรดีๆ หันมาดูข้อดีของเบียร์กันบ้างครับดีต่อหัวใจ : จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยอีโมรี พบว่าผู้หญิงและผู้ชายสูงอายุจำนวน 2,200 คนที่ดื่มเบียร์วันละ 1.5 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยงต่อโณคหัวใจล้มเหลวลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แสดงว่าเบียร์ช่วยสูบฉีดโลหิต ทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรง และขจัดไขมันที่เกาะอยู่ตามหลอดเลือดออกไปดีต่อสมอง : นักวิทยาศาสตร์ในบอสตันพบว่าคนที่ดื่มเบียร์ตั้งแต่ 1-6 แก้วต่อสัปดาห์ จนถึง 7-14 แก้วต่อสัปดาห์จะเกิดอาการชักได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเลย เพราะว่าเบียร์สามารถช่วยลดขนาดเม็ดเลือด และช่วยให้เลือดไม่ไปคั่งอยู่ที่สมองได้ ดีต่อจิตใจ : การดื่มเบียร์ช่วยลดความเครียดได้ ช่วยให้ผ่อนคลาย หายกังวล ทำให้อารมณ์ดี เป็นการป้องกันโรคซึมเศร้าไปในตัว[/b]ดีอื่นๆ : เบียร์มีสารอาหารสำคัญอยู่หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน B ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เซเลเนียม และธาตุเหล็ก เพราะมันทำมาจากยอดอ่อนของข้าวเอาไปหมักกับยีสต์ คนที่ดื่มเบียร์จึงไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็น แต่การจะได้ผลดีจากการดื่มเบียร์ ต้องดื่มแค่เป็นยาและนานๆ ดื่มที ซดแทนน้ำนี่ไม่นับนะครับ.....................................................................................................................
เมนูที่ 4 ขอเสนอนกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำเครื่องปรุง1. เนื้อนกกระจอกเทศ 200 กรัม
2. พริกฝรั่งเขียว 30 กรัม
3. พริกชี้ฟ้าแดง 30 กรัม
4. พริกไทยขาว-ดำ 20 กรัม
5. ต้นหอม 5 กรัม
6. น้ำมันหอม 2 ช้อนโต๊ะ
7. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
8. กระเทียม
9. รากผักชี
10. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวงวิธีการทำนำเนื้อนกกระจอกเทศ ไปล้างทำความสะอาด หั่นชิ้นตามขวางพอคำ หั่นพริกฝรั่งชี้ฟ้าแดงเป็นสี่เหลี่ยมพองาม พักไว้ สับกระเทียมรากผักชี ลงไปผัดพอเหลือง ทุบพริกไทยขาว-ดำให้แตกใส่ลงไป พริกชี้ฟ้าแดง เนื้อนกผัดพอสุกแล้วปรุงรสชาติตามต้องการ หั่นต้นหอมเป็นท่อนใส่ลงไป มีน้ำพอขลุกขลิก พร้อมเสริฟครับ.....................................................................................................................
เมนูที่ 5 ขอเสนอผัดเผ็ดหมูป่าเครื่องปรุง1. เนื้อหมูป่า 3 ขีด
2. พริกแกง 1 ช้อนคาว
3. พริกไทยอ่อน 7 ช่อ หั่นหรือเด็ดเป็นท่อนสั้นๆ
4. กะชาย 4 ราก ซอยเป็นเส้น
5. พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ 4 เม็ด
6. ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ
7. กะทิหรือนมสด 3 ช้อนคาว
8. น้ำมันพืช หรือน้ำมันหมู
9. ซอสหอยนางรม
10. น้ำปลาดี
11. น้ำตาลทราย
12. เหล้านิดหน่อย
13. พริกไทยป่นวิธีการทำ1. เนื้อหมูป่าที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ จะตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกำปั้น เผาและขูดขนเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เป็นหนังจะเกรียมเหลือง แต่ยังเห็นขนสีดำฝังอยู่ชัดเจน ชั้นไขมันบางกว่าหมูธรรมดา ส่วนที่เป็นเนื้อหนาสีแดงสด นำมาล้างให้สะอาด
2. หั่นแบ่งก้อนเนื้อหมูป่าที่ซื้อมาตามยาวออกเป็น 3-4 ส่วน โดยแต่ละส่วนมีหนังติดไปด้วยแล้วจึงหั่นเป็นชิ้นพอคำ อย่าหั่นเป็นชิ้นเล็กนะครับ ชิ้นเนื้อหมูป่าที่หั่นสำเร็จแล้วนี้มีหนังหมูป่าติดอยู่ด้วยทุกชิ้น
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูลงไป 2 ช้อนคาว พอน้ำมันร้อนใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ใส่กะทิหรือนมสดตามลงไปผัด
4. ใส่เนื้อหมูป่าลงไปผัดกับน้ำพริกแกง เติมน้ำสะอาดลงไปนิดหน่อย พอมีน้ำขลุกขลิก เหยาะเหล้าลงไปเล็กน้อย จะช่วยให้เนื้อหมูป่านุ่ม ตามด้วยพริกไทยอ่อนและกระชายซอย ผัดจนแห้งและเนื้อหมูสุก
5. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลาดี เดาะน้ำตาลทรายตัดรสนิดหน่อย
6. ชิมรสได้ที่แล้วใส่พริกชี้ฟ้าใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานโรยด้วยพริกไทยป่นบางพร้อมจัดสำรับแล้วครับหมายเหตุและทีเด็ดเคล็ดไม่ลับ
ผัดเผ็ดหมูป่านี้ ความอร่อยอยู่ที่ความกรุบกรอบของหนังและเนื้อหมูป่าที่ค่อนข้างเหนียว เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพฟันดีกรามแข็งแรงเท่านั้น ใครจะใช้สันในหมูผัดรวมกับหนังหมูต้ม หรือหมูสามชั้นที่มันน้อยๆแทนเนื้อหมูป่าก็ได้ครับ.....................................................................................................................
เมนูที่ 6 ขอเสนอยำหอยนางรมเครื่องปรุง1. หอยนางรมสด 300 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมะนาว 3 ช้อนโตีะ
4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
7. กระเทียม 5 กลีบ
8. กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย
9. หอมแดงเจียว 1/2 ถ้วย วิธีการทำ1. ตั้งน้ำให้เดือดนำหอยนางรมไปลวกให้พอสุก พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. โขลกพริกขี้หนูกับกระเทียมให้ละเอียดใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำพริกเผาและน้ำปลาคนให้เข้ากัน
3. ใส่หอยนางรมลงผสม เทใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและหอมแดงเจียว รับประทานกับผักสดตามชอบ เช่น ยอดกระถิน คะน้าอ่อน ผักกาดหอม.....................................................................................................................
เมนูที่ 7 ขอเสนอยำสไบนางเครื่องปรุง1. ผ้าขี้ริ้ววัว
2. หอมแดงซอย
3. ต้นหอมผักชีก็ได้ หั่นหยาบ
4. พริกขึ้หนูสด
5. ใบสะระแน่
6. พริกป่น
7. ข้าวคั่ว
8. น้ำปลา
9. น้ำมะนาววิธีการทำ1. นำผ้าขี้ริ้วไปต้มหรือลวกจนสุก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
2. นำพริก น้ำมะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว ผสมรวมกันชิมรสตามชอบ แล้วใส่ผักทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. เสร็จแล้วเติมผ้าขี้ริ้วที่หั่นไว้ลงไปผสม แล้วก็จัดใส่จาน ทานกับแตงกวา หรือผักสดอื่นตามชอบ.....................................................................................................................
เมนูที่ 8 ขอเสนอยำเมียหนี เครื่องปรุง1. มะเขือยาว 2 ลูก
2. หมูบด 1/4 ถ้วย
3. กุ้งลวก 8 ตัว
4. สะระแหน่เด็ดเป็นใบ 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องปรุงน้ำยำ1. พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนชา
2. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ วิธีการปรุง1) ผสมเครื่องปรุงน้ำยาเข้าด้วยกัน
2) ย่างมะเขือให้สุกนุ่ม นำไปปอกเปลือกออก หั่นเป็นท่อนสั้นใสชาม
3) ใส่กุ้ง เนื้อหมู ราดด้วยน้ำยำ เคล้าให้ทั่ว
4) ตักใส่จาน โรยสะระแหน่ เสิร์ฟ.....................................................................................................................
เมนูที่ 9 ขอเสนอปลาทอดราดซอสมะขามส่วนประกอบ1. ปลาช่อนแล่เป็นชิ้นบาง ๆ 100 กรัม
2. เกลือป่น 1 ช้อนชา
3. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
4. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันสำหรับทอดปลา 1 ถ้วยส่วนประกอบซอสมะขาม1. น้ำมะขามเปียก 200 กรัม
2. น้ำตาลปีบ 120 กรัม
3. น้ำตาลทราย 40 กรัม
4. ซีอิ๊วขาว 30 กรัม
5. เกลือป่น 2 กรัมวิธีการทำ1. ทำซอสมะขามโดย ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เคี่ยวให้เหนียว
2. โรยเกลือ พริกไทยให้ทั่วปลา พักไว้ 10 นาที นำปลามาชุบไข่และคลุกแป้งสาลีให้ทั่ว ทอดพอเหลือง
3. ตักปลาใส่จาน โรยด้วยกระเทียมเจียว ราดด้วยซอสมะขาม พร้อมเสิร์ฟ.....................................................................................................................
เมนูที่ 10 ขอเสนอปลาทอดน้ำปลา ส่วนประกอบ1. ปลาอะไรก็ได้ครับ (จานนี้เป็นแซลม่อนนะครับ)
2. น้ำปลา
3. น้ำตาล
4. น้ำเปล่า วิธีการทำ1. เริ่มต้นจากเอาปลามาแล่ แล้วล้างสะอาดแล้ว หั่นเป็นชิ้น จากนั้นก็เอามาทอดให้เหลืองสวย พร้อมทั้งใส่ใบเตยดับกลิ่นปลาไปด้วย
2. แล้วก็มาทำน้ำปลาที่จะราด เอา น้ำปลา น้ำตาล น้ำเปล่า ผสมกันก่อน 3 : 1 : 1 ครับ
3. เทน้ำมันออกจากระทะแล้วก็เทน้ำปลาที่เราผสมแล้วลงไปในกระทะ พอน้ำปลาเริ่มข้น ตักขึ้นมาราดตัวปลา เสิร์ฟ.....................................................................................................................
เมนูที่ 11 ขอเสนอแหนมซี่โครงหมูทอดส่วนประกอบ 1. ซี่โครงหมูล้างและตัดชิ้นตามต้องการ ผึ่งให้แห้ง 1 ก.ก.
2. กระเทียมแกะกลีบปอกเปลือก 1/2 ถ้วย
3. ข้าวสุก 1/2 ถ้วย
4. พริกขี้หนู 20 เม็ด
5. เกลือเม็ดเล็ก 1 1/2 ช.ต.วิธีการทำ 1. โขลกกระเทียมกับเกลือพอหยาบๆ ผสมกับข้าวสุก
2. นำส่วนผสมในข้อ 1 เคล้ากับซี่โครงหมูให้ทั่วเข้ากันดี ใส่พริกขี้หนู หมักใน ภาชนะหรือ บรรจุถุงพลาสติกไล่อากาศออกให้หมด มัดปากถุงให้แน่น แล้วใส่ถุงพลาสติกซ้อนอีก 1 ชั้น มัดปากถุงให้แน่นเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง 3 วัน เพื่อให้เกิดรสเปรี้ยว นำมาทอดรับประทาน
3. รับประทานกับผักกาดหอม ต้นหอม ขิงสด ผักชี และถั่วลิสงคั่วเคล็ดไม่ลับ : เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง 3 วันเพื่อให้เกิดรสเปรี้ยว ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นหมักไว้ 7 วันครับ.....................................................................................................................
เมนูที่ 11 ขอเสนอโป๊ะแตกผัดแห้งส่วนประกอบ1. ปลาหมึก 1 ขีด
2. ปลากะพง 1 ขีด
3. กุ้ง 1 ขีด
4. ข่า 1 แง่งหั่นเป็นแว่นๆ
5. ตะไคร้ 1 ต้นซอยเป็นแว่นๆ
6. ใบมะกรูด 5 ใบ
7. เห็ดฟาง 5 ดอก
8. ใบโหระพา 5-6 ใบสำหรับตกแต่ง
9. พริกขี้หนูสับ 8 เม็ด
10. กระเทียมสับ 5 หัว
11. น้ำปลา 1/3 ช้อนโต๊ะ
12. น้ำตาลทราย 1/3 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำมันหอย 1/3 ช้อนโต๊ะ
14. น้ำพริกเผา 1/4 ช้อนโต๊ะ
15. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
16. น้ำมันพืช 1/3 ช้อนโต๊ะ วิธีการทำ1. ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง ลวกพอสุก
2. จากนั้นนำข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับลงไปผัดในน้ำมัน
3. ใส่ปลาหมึก กุ้ง และปลากะพง พร้อมกับเห็ดลงไปผัดให้เคล้ากับเครื่อง
4. ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำพริกเผา และน้ำมะนาว ผัดคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันอีกที ชิมให้มีรสชาติออกเผ็ด เปรี้ยวอมหวาน ตักใส่จานตกแต่งด้วยใบโหระพา.....................................................................................................................
เมนูที่ 12 ขอเสนอปลาหมึกยัดไส้ นึ่งมะนาวส่วนประกอบ1. ปลาหมึก 2 ตัว
2. เนื้อปลาสับ 1 ถ้วย
3. พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียมสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำซุป 1/4 ถ้วย
10. เกลือ 1/4 ช้อนชา
11. กระเทียมซอยเป็นแว่น สำหรับโรยหน้า
12 ผักชีซอย สำหรับโรยหน้าวิธีการทำ 1. ผสมเนื้อปลาสับเกลือ นวดให้เข้ากัน พักไว้สักครู่
2. นำปลาหมึกมาล้างทำความสะอาดให้ดี แล้วนำส่วนผสมเนื้อปลาสับมายัดไส้
3. นำปลาหมึกยัดไส้เรียงบนจานสำหรับนึ่ง พักไว้
4. ในชามผสมใส่พริกขี้หนู ผักชี กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำซุป ผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
5. ตักน้ำราดลงบนปลาหมึกไข่ที่เตรียมไว้ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปนึ่งจนสุก
6. นำปลาหมึกออกมา ราดหน้าด้วยน้ำราดที่เหลือ โรยหน้าด้วยกระเทียมซอย มะนาวฝานและผักชี .....................................................................................................................
เมนูที่ 13 ขอเสนอปลาจะละเม็ดนึ่งบ๊วยส่วนประกอบ1. ปลาจะละเม็ดขาว 400 กรัม
2. ขิงแก่สด 40 กรัม
3. เม็ดบ๊วยดอง 3-4 เม็ด
4. น้ำบ๊วยดอง 1 ช้อนโต๊ะ
5. เห็ดหอมแห้ง 3 ดอก วิธีการทำ1. ปลาจะละเม็ดขาว นำเหงือกปลาออก ขอดเกล็ดเล็กๆ ที่เป็นสีดำออก ผ่าท้องนำไส้ออก ตัด
ครีบ ตัดหางให้สวยงาม จากนั้นล้างตัวปลาให้สะอาดก่อนที่จะบั้งทั้งสองด้านของตัวปลา บั้งด้าน
ละ 3 รอย ระยะห่างเท่าๆ กัน
2. ขิงปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่น 4-5 แว่น หรือถ้าชอบหั่นเป็นเส้นฝอยก็ได้
3. บ๊วยดองนำเม็ดออก สับเนื้อบ๊วยไม่ต้องละเอียดมาก เห็ดหอมแห้ง ล้างสะอาด แช่น้ำจนนิ่ม ตัดโคนออกแล้วหั่นเป็นเส้นๆ
4. นำขิงที่หั่นเป็นแว่น หมูสามชั้น บ๊วยดอง น้ำบ๊วยดอง เห็ดหอม ลงผสมให้เข้ากัน
5. นำเนื้อปลาที่เตรียมไว้ วางบนจานพร้อมที่จะนึ่ง ควรเป็นจานลึก เพราะจะได้เก็บน้ำที่นึ่งในเนื้อปลาได้
6. นำส่วนผสมราดบนตัวปลา ให้ส่วนผสมทับลงบนชิ้นปลาให้ทั่วแล้วนำปลาไปนึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 10 นาที
7. เมื่อปลาสุก ก่อนเสิร์ฟให้ใส่ คื่นฉ่าย ลงในจาน พร้อมแต่งด้วย พริกชี้ฟ้าแดงซอย เสิร์ฟเคียงกับน้ำจิ้มพริกขี้หนูสดน้ำจิ้มพริกขี้หนูสวน เขียว-แดง 10-15 เม็ด รากผักชี ล้างสะอาด ซอยละเอียด 1 ราก กระเทียมกลีบเล็ก 6-7 กลีบ ข่า 1 แว่นเล็ก ตำให้ละเอียดกับ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ในครก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ เสิร์ฟเคียงปลานึ่ง.....................................................................................................................
เมนูที่ 14 ขอเสนอต้มยำปลาบึกส่วนประกอบ1. ปลาบึก 5 ขีด
2. เห็ดฟางผ่าครึ่ง 1 ขีด
3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
7. ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
8. ตะไคร้หั่นแฉลบบาง ๆ สัก 2 กำมือ
9. ข่าแก่ 10 แว่น
10. หอมแดงปอกแล้วทุบพอแตก 10 หัว
11. พริกมากน้อยตามชอบ
12. ต้นหอมหั่นหยาบ ๆ 1 ต้น
13. ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ ๆ 1 ต้น
14. ผักชีไทยหั่นท่อน 1 ต้น
15. ใบโหระพา 1 กำมือ
16. น้ำ 3 ถ้วย วิธีการทำ1. ปลาบึกล้างทำความสะอาด หั่นเป็นแชิ้นๆ
2. ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ ใบมะกรูด ตะไคร้ หอมแดง ข่า และเกลือลงไป
3. พอน้ำเดือดจัด อีกครั้ง ใส่ปลาลงไป พอปลาสุกใส่เห็ด แล้วปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และพริกบุบ ชิมรสชาติตามใจชอบ (เปรี้ยว / เค็ม)
4. เมื่อได้ที่ ใส่ใบกระเพราลงไป ก่อนตักเสิร์ฟโรยด้วยต้นหอม ผักชี .....................................................................................................................
เมนูที่ 15 ขอเสนอข้าวต้มปลาส่วนประกอบ (สำหรับ 1 ที่)1. ข้าวสวย 1 ถ้วย
2. เนื้อปลากระพงหรือปลาช่อน หั่นบาง ๆลวกในน้ำเดือด 1/2 ถ้วย
3. น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย
4. ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผักชี-ต้นหอมซอย 1 ช้อนชา
6. กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา
7. น้ำปลา 2 ช้อนชา
8. พริกไทยป่น เล็กน้อย วิธีการทำ1. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง ใส่ข้าวสวย และขิงสับ
2. ใส่ปลา น้ำปลา ตักใส่ถ้วย โรยต้นหอม ผักชี กระเทียมเจียว และพริกไทย พร้อมทานแล้วครับ.....................................................................................................................
เมนูที่ 16 ขอเสนอไข่ตุ๋นหมูสับส่วนผสม1. ไข่ 1 ฟอง
2. หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
3. ต้นหอมซอย 1 ต้น
4. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำซุป 1/ 2 ถ้วย
6. กระเทียมเจียว
7. ใบผักชี วิธีการทำ1. ต่อยไข่ใส่ชาม ตีพอแตก เติมน้ำซุปและซีอิ๋วขาว แล้วนำไปกรอง
2. จากนั้นเติมหมูสับ คนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง
3. นำไปนึ่งบนน้ำเดือดไฟแรง จนสุก จึงยกออกจากลังถึง โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว.....................................................................................................................
เมนูที่ 18 ขอเสนอยำคอหมูย่างส่วนประกอบ 1. เนื้อคอหมู 1/2 กิโล
2. น้ำตาลปี๊บสำหรับหมักคอหมู 1 ช้อนโต๊ะ
3. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
4. หอมแดงซอย 5 หัว
5. ผักชี 2 ต้น
6. ต้นหอม 2 ต้น
7. ใบสะระแหน่ 1 ถ้วย
8. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
9. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะวิธีการทำ1. เอาเนื้อคอหมูย่างมาหมักกับซอสปรุงรส น้ำตาลปี๊บ ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง แล้วนำไปย่างให้สุก
2. สไลซ์คอหมูย่างให้เป็นชิ้นพอสวยงาม
3. ผสมพริกป่น หอมแดงซอย น้ำมะนาว น้ำปลาเข้าด้วยกัน ชิมรสตามชอบ
4. ใส้หอม ผักชี สะระแหน่ลงไปผสม ตามด้วยคอหมูลงไป ตามด้วยข้าวคั่วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. โรยต้นหอม ผักชี ใบสะระแหน่อีกครั้งก่อนเสิร์ฟ.....................................................................................................................
เมนูที่ 19 ขอเสนอกุ้งแช่น้ำปลาเครื่องปรุง1. กุ้งซีแฮ้ 15 ตัว
2. น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
3. กระเทียมซอยบางๆ 10 กลีบ
4. พริกขี้หนู 5 เม็ด
5. ปลา 3 ช้อนโต๊ะ
6. มะระหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย
7. ใบสะระแหน่ 1 ต้น วิธีการทำ1. แกะเปลือก เด็ดหัวกุ้งออกให้หมด ผ่าหลังล้างให้สะอาด จัดใส่จานที่วางเรียงให้เรียบร้อย นำเข้าแช่ในตู้เย็นประมาร 1/2 ช.ม.
2. นำมะระที่หั่นเป็นชิ้นบางๆแล้วมาแช่ในน้ำเกลือ ประมาณ 5 นาทีแล้วใส่จานแช่ตู้เย็นไว้
3. เตรียมชามใส่น้ำปลา น้ำมะนาว พริกขี้หนูที่โขลกละเอียดแล้ว กระเทียม คนให้เข้ากัน
4. นำจานกุ้งออกมาจากตู้เย็น ราดน้ำส่วนผสมที่ได้ลงบนตัวกุ้งให้ทั่ว โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่และมะระจัดวางไว้ข้างๆจาน รับประทานเป็นกับแกล้ม.....................................................................................................................
เมนูที่ 20 ขอเสนอพล่ากุ้งส่วนผสม1. กุ้ง 15 ตัว
2. น้ำหริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
6. ใบมะกรูด (หั่นฝอย) 2 ใบ
7. ตะไคร้ซอย 2 ต้น
8. ผักชี เล็กน้อย
9. ต้นหอม เล็กน้อย
10. สะระแหน่ เล็กน้อยวิธีทำ1. ผ่าหลังกุ้งเอาขี้กุ้งออก แล้วลวกเตรียมไว้
2. นำน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล ใส่ลงในภาชนะแล้วคนให้เข้ากัน
3. ใส่กุ้งที่ต้มเตรียมไว้แล้วลงไป แล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว
4. ใส่ใบมะกรูด ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี และสะระแหน่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. ตักใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม แล้วนำไปเสิร์ฟ.....................................................................................................................
เมนูที่ 21 ขอเสนอหมูมะนาวส่วนผสม1. หมูสันนอก
2. น้ำมะนาว
3. น้ำปลา
4. น้ำตาล
5. พริกขี้หนูซอย
6. กระเทียมสับวิธีทำน้ำราด ก่อนอื่น ต้องปลอกกระเทียมโทนชั้นเยี่ยม แล้วนำไปตำในครกให้ละเอียดมากๆ พร้อมกับตำ พริกขี้หนูสวนสีเขียวพร้อมๆกัน บีบมะนาวลงไปเยอะๆ พร้อมด้วยน้ำเชื่อมนิดหน่อย ปรุงจนรสชาติจัดได้ที่ ผักแกล้มนำผักคะน้า มาปอก แล้วหั่นเป็นแท่งๆ จะเด็ดมาก ตรงก้าน และยอดคะน้า ตรงใบไม่ค่อยกินกันเสร็จแล้ว รีบนำไปแช่ตู้เย็น จนกรอบ นำกะหล่ำปลี มาซอยเพื่อเอาไปรองจาน หมู ถ้าจะทำหมูมะนาว ต้องหั่นหมู ให้บางๆ ตามขวางของเส้นเนื้อ แล้วนำไปลวก ลวกน้ำร้อน พอใกล้สุก แล้วนำไปลวกน้ำเย็นจัดแป๊บนึง แล้วก็นำไปลวกน้ำร้อนต่อ จนสุก (จะทำให้หมูนุ่มมาก) จัดจานโดยเอากะหล่ำปลีซอย รองให้เต็มจาน เอาหมู มาเรียงกัน แล้วเอากระเทียมสด ที่ปอกแล้ว หั่น
มาวางทับหมูอีกรอบ แล้วเอาน้ำราด มาราดทับ หมู-กระเทียม อีกจาน เอาผักคะน้ามาใส่จานแล้ว เอาน้ำแข็ง 3-4 ก้อนมาโป๊ไว้ ผักจะได้กรอบๆ.....................................................................................................................